พิพิธภัณฑ์ในภาคกลาง

 

1. พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร
    ที่มาของพิพิธภัณฑ์
         พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระนคร (อังกฤษ: Bangkok National Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร บริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล หรือส่วนหนึ่งของที่ประทับวังหน้า ซึ่งก็คือพื้นที่พระราชวังของสมเด็จพระบวรราชเจ้าตั้งแต่รัชกาลที่ 1 เป็นต้นมา มีอาณาเขตตั้งแต่บริเวณมหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงตอนตะวันตก อนุสาวรีย์ทหารอาสา และโรงละครแห่งชาติในปัจจุบัน

การจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยนั้นเริ่มขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระองค์ทรงจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ขึ้นที่พระที่นั่งราชฤดีซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านข้างของพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ต่อมา เมื่อพระองค์ทรงสร้างพระอภิเนาว์นิเวศน์ขึ้นภายในพระบรมมหาราชวัง จึงโปรดฯ ให้ย้ายโบราณวัตถุและของแปลก ๆ มาไว้ยังพระที่นั่งประพาสพิพิธภัณฑ์ในหมู่พระอภิเนาว์นิเวศน์ ซึ่งนับเป็นพิพิธภัณฑ์ส่วนพระองค์ หรือ “รอยัล มิวเซียม” (Royal Museum) มิได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม

 

 

2.  มิวเซียมสยาม 
    มิวเซียมสยาม หรือ พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ (อังกฤษ: Museum Siam, Discovery Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บนถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เปิดให้บริการเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2551 มิวเซียมสยามดูแลโดยสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติมิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้นี้ ถือเป็นแหล่งการเรียนรู้หนึ่งที่เน้นจุดมุ่งหมายในการแสดงตัวตนของชนในชาติ ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้าชมที่อยู่ในวัยเด็กและเยาวชน ได้เรียนรู้รากเหง้าของชาวไทย โดยเน้นไปที่กลุ่มชนในเขตเมืองบางกอก หรือที่เรียกในปัจจุบันว่า กรุงเทพมหานคร เป็นสำคัญ เนื่องจากตัวมิวเซียมสยามแห่งนี้ได้ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร แต่มิได้หมายความว่าถ้าเป็นคนไทยต่างจังหวัด จะไม่สามารถมาเรียนรู้จากพิพิธภัณฑ์นี้ได้ ด้วยเพราะสิ่งที่จัดแสดงในตู้ เน้นการนำเสนอความเป็นไทย ในมิติที่ร่วมสมัยมากขึ้น ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ผ่านการนำเสนอด้วยสื่อผสมหลายรูปแบบ ทำให้มีความน่าสนใจ และดึงดูดใจผู้เข้าชมได้เป็นอย่างยิ่ง ทั้งยังตั้งอยู่ในสถานที่สวยงาม

 

3. พิพิธภัณฑ์บ้านไทย จิม ทอมป์สัน

รู้จักพิพิธภัณฑ์ จิม ทอมป์สัน 
            ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวของ จิม ทอมป์สัน ผู้ก่อตั้ง ร้านผ้าไหมไทย จิม ทอมป์สัน และเป็นผู้นำในการสร้างชื่อเสียงของผ้าไหมไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกภายในบ้านจิมนั้น จะเป็นหมู่เรือนไทยเก่าแก่ 6 หลัง และรายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่อายุเฉียดร้อยปี รวมถึงยังมีทั้งบรรดาเฟิร์น มอส และบ่อน้ำ ให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำ ชุ่มชื้น จนแทบไม่น่าเชื่อว่า ความครึ้มเขียวเย็นนี้ จะอยู่ห่างจากถนนใหญ่ที่เต็มไปด้วยความจอแจ และเสียงอันอึกทึกเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้นเอง ในบริเวณเรือนไทยจะเป็นส่วนของเป็นพิพิธภัณฑ์ค่ะ โดยจะมีไกด์ของทางพิพิธภัณฑ์ นำชมพิพิธภัณฑ์ และให้ข้อมูลทั้งแบบเวอร์ชั่นภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ (อังกฤษ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น) ทำให้เราสามารถเดินชมโซนต่างๆ ได้โดยง่าย และรู้เรื่องราวของพิพิธภัณฑ์เพิ่มเติมอย่างละเอียดนอกเหนือจากป้ายให้ข้อมูลอีกด้วย

 

 

 

4. ท้องฟ้าจำลอง
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาหรือที่รู้จักกันดีในชื่อท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ปัจจุบันสังกัดสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กระทรวงศึกษาธิการ โดยแรกเริ่มกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการสร้างท้องฟ้าจำลองกรุงเทพและหอดูดาว ในปี พ.ศ. 2505 เพื่อเป็นแหล่งบริการความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เสริมการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ด้วยกระบวนการเรียนรู้รูปแบบพิพิธภัณฑ์การศึกษา ไฮไลท์สำคัญคืออาคารท้องฟ้าจำลอง ภายในอาคารตรงกลางเป็นโดมท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ จัดการแสดงท้องฟ้าจำลองกรุงเทพเป็นรอบๆ โดยการบรรยายให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์ในช่วงแรก และจัดฉายภาพยนตร์เต็มโดมในช่วงท้าย มีการเปลี่ยนหัวข้อการแสดงทุก ๆ เดือน และจัดแสดงนิทรรศการด้านดาราศาสตร์และอวกาศ บริเวณรอบนอกโดม

ข้อมูลพิพิธภัณฑ์
ในปี พ.ศ. 2505 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้กระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการสร้างท้องฟ้าจำลองกรุงเทพและหอดูดาว ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญและมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการศึกษาวิชาภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และดาราศาสตร์ ตลอดจนเป็นแหล่งที่เยาวชนสามารถไปชุมนุมหาความรู้ได้ง่าย โดยจะได้เรียนจากของจำลองเหมือนของจริง ทำให้เข้าใจได้ลึกซึ้งและรวดเร็วกว่าการสอนด้วยปากเปล่า รวมทั้งก่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความมีเหตุผลและความเพลิดเพลิน แบ่งส่วนจัดแสดงออกเป็น

  • อาคารท้องฟ้าจำลอง ภายในอาคารตรงกลางเป็นโดมท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ จัดการแสดงท้องฟ้าจำลองกรุงเทพรอบละ 1 ชั่วโมง โดยการบรรยายให้ความรู้ด้านดาราศาสตร์ในช่วงแรก และจัดฉายภาพยนตร์เต็มโดมในช่วงท้าย มีการเปลี่ยนหัวข้อการแสดงทุก ๆ เดือน และจัดแสดงนิทรรศการด้านดาราศาสตร์และอวกาศ บริเวณรอบนอกโดม
  • อาคารพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ จัดแสดงนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีด้านต่างๆ เช่น ธีออส..ดวงตาของชาติ ดินแดนแห่งแร่ พลังวิทย์พิชิตยาเสพติด คณิตศาสตร์แสนสนุก ห้องปฏิบัติการหุ่นยนต์ ดาวเคราะห์สีฟ้า ความลับของสิ่งมีชีวิต รวมทั้งมีมุมเครื่องเล่นทางวิทยาศาสตร์ เช่น มุมวิทยาศาสตร์แสนสนุก สัมผัสอวกาศ ลูกกลมกลิ้ง (อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงอาคาร) **หมายเหตุ** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2391-0544, 0-2392-0508, 0-2392-1773 ในวันและเวลาราชการ
  • อาคารโลกใต้น้ำ จัดแสดงนิทรรศการ "มหัศจรรย์ชีวิตในสายน้ำ" ผ่านกลุ่มปลาหายาก ปลาใกล้สูญพันธ์ ปลาเศรษฐกิจ ปลาน้ำจืด ปลาน้ำเค็ม และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในทะเล (อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงอาคาร)
  • อาคารธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัดแสดงนิทรรศการด้านธรรมชาติวิทยา และสิ่งแวดล้อม ทั้งเรื่องของมนุษย์ สัตว์ และพืช เช่น โลกดึกดำบรรพ์และไดโนเสาร์ ขุมทรัพย์โลกสีเขียว โลกของแมลง เมืองเด็ก ชีวิตพิศวง และมรดกธรรมชาติ
  • อาคารความตระหนักรู้ด้านพลังงาน จัดแสดงเรื่องราวของพลังงานและความสัมพันธ์ของพลังงานกับการดำรงชีวิตของมนุษย์ และกิจกรรม Inter Active เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการอนุรักษ์พลังงาน (อยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงอาคาร)

นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานย่อยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ตั้งอยู่ในเขตคลองสาน มีชื่อว่า "ศูนย์สร้างสรรค์เยาวชน (กระจ่าง บริรักษ์นิติเกษตร)" ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กเล็ก และระดับปฐมวัย  จัดกิจกรรมเรียนรู้วิทยาศาสตร์จากสื่อนิทรรศการโดยทำบทปฏิบัติการประกอบการเล่นเพื่อการเรียนรู้สำหรับเด็กอายุ 3-6 ปี ให้บริการสื่อนิทรรศการภายในอาคาร จำนวน 10 ฐานและสื่อนิทรรศภายนอกอาคาร จำนวน 13 ฐาน

  • นิทรรศการภายในอาคาร : ผึ้งกับเสือ, การผจญภัยของหยดน้ำ, ชีวิตในน้ำ, ต้นไม้ ใบหญ้า พืช ผัก ผลไม้, กินให้ฉลาดและโตเร็ว, รู้จักตนเองและเพื่อน, จักรวาลและอวกาศ, สุขสบายคลายเหนื่อย, มุมรักการอ่าน, ฝากอะไรไว้ให้โลก
  • นิทรรศการภายนอกอาคาร ; ผึ้งกับเสือ, เครื่องเล่นสนาม, เรียนรู้แรงดันน้ำ, เรียนรู้เรื่องสูตรคูณ, วาดฝันกับเม็ดทราย, เรียนรู้การทรงตัว, บ้านต้นไม้, เรียนรู้เลขคู่และคี่, เรียนรู้รูปทรงเรขาคณิต, ฐานสะกดรอย, เรียนรู้เรื่องมุม, เรียนรู้เรื่องจำนวน, เรียนรู้การขนส่งทางน้ำ, ลานนวดเท้า

 

5. พิพิธภัณฑ์ปืนใหญ่โบราณ
    ข้อมูลพิพิธภัณฑ์
พิพิธภัณฑ์ปืนใหญ่กระทรวงกลาโหม จัดแสดงกลางแจ้งด้านหน้าและด้านข้างของกระทรวงกลาโหม โดยเรียงลำดับหมวดหมู่ตามอายุและยุคสมัยของปืน เริ่มจากปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ธนบุรี  และกรุงรัตนโกสินทร์ มีทั้งหมด 40 กระบอก แต่ละกระบอกมีป้ายชื่อและประวัติจารึกลงบนแผ่นทองเหลืออธิบายความเป็นมาจุดเด่นของปืนใหญ่ที่จัดแสดง คือ ลวดลายประดับที่อยู่บริเวณท้ายปืน รอบปากกระบอก และส่วนกลางกระบอก แสดงถึงรูปแบบศิลปะที่นิยมกันในยุคที่ปืนกระบอกนั้นถูกสร้างขึ้น เช่น รูปบุคคลมีปีกคล้ายกินนรแต่ศีรษะเป็นฝรั่งมีผมหยิก  รูปสิงห์ รูปคชสีห์ ลายไทยแบบที่พบได้ในสถาปัตยกรรม และหลายกระบอกประดับลวดลายแบบตะวันตกปืนที่มีความโดดเด่นที่สุด คือ ปืนพญาตานี เอกสารทางประวัติศาสตร์กล่าวถึงประวัติของปืนกระบอกนี้ว่าหล่อขึ้นในสมัยอยุธยา โดยช่างชาวจีน โดยหล่อปืนขึ้นทั้งหมด 3 กระบอก สองกระบอกแรกสำเร็จด้วยดี เหลือแต่กระบอกที่สามพยายามหล่ออยู่หลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ ช่างจึงตั้งโต๊ะเซ่นไหว้เอาชีวิตของตนถวายถ้าหล่อปืนได้สำเร็จ  ปรากฏว่าเมื่อหล่อได้แล้ว  นายช่างหล่อปืนจึงไปยืนหน้ากระบอกปืน แล้วจุดทดลองยิงนอกจากนั้น  ปืนกระบอกนี้ยังมีขนาดใหญ่และยาวที่สุด  ใช้วัสดุสำริด  ส่วนท้ายปืนเป็นรูปสังข์ปลายงอน ที่เพลามีรูปราชสีห์  บนกระบอกปืนมีจารึกว่า "พญาตานี"  มีห่วงสำหรับยก 4 ห่วง มีรูชนวนบริเวณท้ายปืน ความยาว 6.82 เมตร ตั้งอยู่บริเวณสนามฝั่งทิศใต้อีกจุดที่น่าสนใจ คือ ชื่อของปืนหลายกระบอกแสดงถึงชนชาติต่างๆ ที่มีความสัมพันธ์ทางทหารกับไทย เช่น  ขอมดำดิน  ไทใหญ่เล่นหน้า  ยวนง่าง้าว  ฝรั่งร้ายปืนแม่น  จีนสาวไส้  มักกะสันแหกค่าย และมุงิดทะลวงฟัน เป็นต้น